หลักการคิดดอกเบี้ยอัตราใหม่ ตาม ป.พ.พ.ที่แก้ไขใหม่ พ.ศ.๒๕๖๔ (คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๕๑๑/๒๕๖๕)

          ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จําเลยชําระเงิน 53,917.60 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 53,917.60 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 13 สิงหาคม 2562) เป็นต้นไปจนกว่าจะชําระเสร็จแก่โจทก์
          ศาลอุทธรณ์ภาค 1 แผนกคดีผู้บริโภคพิพากษายืน
          การคิดดอกเบี้ยผิดนัดในหนี้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคหนึ่ง (เดิม) ได้มีการออกพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2564 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 และ มาตรา 3 แห่งพระราชกําหนดดังกล่าวให้ยกเลิกความในมาตรา 7 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เดิมและบัญญัติให้ใช้ความใหม่ว่า ถ้าจะต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่กันและมิได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยไว้โดยนิติกรรมหรือโดยบทกฎหมายอันชัดแจ้งให้ใช้อัตราดอกเบี้ยร้อยละสามต่อปีและมาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 224 เดิมแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และให้ใช้ความใหม่แทนว่า หนี้เงินนั้นให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดในอัตราที่กําหนดตามมาตรา 7 บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละสองต่อปี ทั้งนี้พระราชกําหนดมาตรา 7 บัญญัติให้ใช้บทบัญญัติมาตรา 224 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกําหนดนี้แก่การคิดดอกเบี้ยผิดนัดที่ถึงกําหนดระยะเวลาชําระตั้งแต่วันที่พระราชกําหนดนี้ใช้บังคับแต่ไม่กระทบกระเทือนถึงการคิดดอกเบี้ยผิดนัดในระหว่างช่วเวลาก่อนที่พระราชกําหนดนี้ใช้บังคับ โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 13 สิงหาคม 2562) ตามที่โจทก์ขอจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 ตามมาตรา 224 วรรคหนึ่ง (เดิม) และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชําระเสร็จตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 224 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 7 (ที่แก้ไขใหม่) หากกระทรวงการคลังปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยใหม่โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 7 วรรคสองก็ให้ใช้อัตราดังกล่าวบวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละสองต่อปี นับแต่วันปรับเปลี่ยนเป็นต้นไปแต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่โจทก์ขอ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากําหนดดอกเบี้ยผิดนัดในขณะที่ยังไม่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ตามพระราชกําหนดดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
          พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จําเลยชําระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 53,917.60 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 13 สิงหาคม 2562) เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชําระเสร็จแก่โจทก์ ทั้งนี้ดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไป นั้นถ้ากระทรวงการคลังปรับเปลี่ยนอัตราโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเมื่อใด ก็ให้ใช้อัตราดอกเบี้ยที่ปรับเปลี่ยนไปบวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่โจทก์ขอ